|
Farger |
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเส้นผม
ผม หมายถึง ขนที่งอกปกคลุมหนังศรีษะของมนุษย์ เส้นผมก็คือเคราติน เคราตินที่ว่าก็คือ โปรตีนสกัด 19 ชนิด มาประกอบเป็นเส้นผมเกลียวเคราติน เกลียวเคราตินที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน และแร่ธาตุ C,H,N,Pและ S
ผมถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เส้นผม hair shaft เป็นส่วนที่งอกเหนือ หนังศรีษะ และ รากผม hair root เป็นส่วนฝังอยู่ใต้หนังศรีษะ เส้นผม hair shaft เป็นเซลล์ส่วนที่ตายแล้ว ไม่มีชีวิตและความรู้สึกเป็นส่วนที่งอกเจริญยาว ออกมาปกคลุมศรีษะ มีลักษณะ โครงสร้าง ภายในต่างกันไปสำหรับผมชนิดต่างๆ ทำให้ปรากฏให้เห็นภายนอกได้ต่างกัน เช่น ผมเหยียดตรง ผมหยักศก ผมสีดำ ผมสีบรอนด์ ผมสีน้ำตาล เป็นต้น ถ้านำเส้นผมมาตัดขวาง จะแยกส่วน ประกอบ ได้ 3 ชั้น คือ
1. ผิวนอก Cuticle อยู่ชั้นนอกสุด โปร่งแสงไม่มีสี เป็นเกล็ดใสๆ ที่เรียงซ้อนกันแบบเกล็ดปลา เรียกว่า keratinized cell รอบเส้นผม ประกอบด้วยคีราตินชนิดแข็ง hard keratin เป็นส่วนใหญ่ทำให้เส้นผมมีความแข็งแรง ช่วยป้องกันการซึมผ่านของสิ่งสกปรกที่จะเข้าไปทำลายเส้นผม และยังปกป้องชั้นเนื้อผม ไม่ให้สูญเสีย ความชุ่มชื้น,เม็ดสี รวมถึงน้ำมันตามธรรมชาติซึ่งช่วยให้ ผมดูเป็นเงา เกล็ดผมจะเปิดก็ต่อเมื่อมีความร้อนความชื้นทั้งจากธรรมชาติและเคมีบ้างตัวเข้ามาทำปฏิกิริยากับเส้นผมเป็นที่สังเกตว่าผมที่สุขภาพดีเกล็ดผมจะปิดและเรียงตัวกันดีส่วนผมที่เริ่มแห้งเสีย เกล็ดผมจะฉีกขาดและไม่สามารถเรียงตัวปิดได้ทำให้เกล็ดผมไม่สามารถปกป้องความชุ่มชื้นภายในและทำให้แห้งเสียเพิ่มขึ้นหากขาดการบำรุง
2. เนื้อชั้นนอก Cortex เป็นชั้นที่มีความหนาที่สุด ประกอบด้วยเซลล์รูปกระสวยล้ายเส้นใยเรียงอัดกันแน่นตามยาว เนื้อผมชั้นนอกเป็นแหล่งรวม ของเม็ดสี pigmentเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็น ตัวกำหนดสีผม มีช่องอากาศ air space โปรตีน เคราติน และเส้นใยโปรตีนที่เกาะเกี่ยวกันกำหนดโครงสร้างตามธรรมชาติ ช่วยให้ผมมีความนิ่ม ยืดหยุ่น
3. แกนผม Medulla แกนผมเกิดจากโปรตีนเคราติน และไขมัน แกนผมไม่มีบทบาทในการทำงาน ส่วนมากจะพบในผมที่มีสภาพแข็งแรง และผมเส้นเล็กมักไม่มีแกนผม
สิ่งที่มีอิทธิพลต่อเส้นผม
1. ฮอร์โมน
ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์เป็นตัวที่กระตุ้นให้ผมงอกเร็ว ในขณะที่สเตียรอยด์ฮอร์โมนระงับการงอกของผม
2. อาหาร
วิตามินบีรวม ซึ่งมีมากในยีสต์และโยเกิร์ต จำเป็นต่อการเจริญตามปกติของเส้นผม ส่วนวิตามินเอ ยับยั้งการเจริญของเซลล์ผิวทำให้ผมงอกช้าการได้รับวิตามินเอมากผิดปกติจะเป็นสาเหตุ ของผมร่วงได้ นอกจากนี้การขาดอาหารโปรตีน ทำให้ผมเปราะบาง และร่วง เส้นผมไม่มีสี เป็นต้น
3. สภาพแวดล้อมของอากาศ
มีรายงานพบว่าสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิประจำวันไม่มีผลต่ออัตราการงอกของเส้นผม แต่มีผลต่อสภาพเส้นผม เช่น การถูกความร้อนมาก การตากแดดจะทำให้ ผมแห้งกรอบและเปราะ เช่นเดียวกับการอบและการดัดผม ความชื้นในอากาศต่ำผมจะแห้งเพราะปล่อยน้ำออกมาทำให้เกิดประจุไฟฟ้า เป็นสาเหตุของผมชี้ฟู ความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสม และดีที่สุดสำหรับผมคือ 40-60%
4. สภาพบางอย่างของโรค
โรคขาดโปรตีนี่เรียกว่า kwashiorkor ทำให้ผมเปราะบาง และไม่มีสี หรือความเป็นพิษของโลหะหนักบางชนิด หรือการเป็นรังแคเนื่องจากการติดเชื้อมีโอกาสที่ทำให้ผมร่วงได้
5. สารเคมี
สารเคมีบางชนิดโดยเฉพาะสารลดแรงตึงผิว อาจระคายเคืองต่อหนังศรีษะ และส่งผลทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน หรือทำให้ผมหยาบกระด้าง เพราะสารชำระล้างอย่างแรง และขจัดไขมันตาม ธรรมชาติของเส้นผม ทำให้ผมแห้ง การยืดผมและดัดผม การทำสีผม ก็ทำให้ผมแห้งเสีย
สภาพของเส้นผมแบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1. ผมแห้ง dry hair
เส้นผมมีลักษณะกรอบหยาบกระด้าง แห้ง ไม่เงางาม ขาดง่าย และเปราะ เนื่องจากเส้นผมขาดน้ำมัน lipid และ lipoprotine และความชุ่มชื้น หรือเกิดจากสภาพผิวชั้นนอก cuticle ถูกทำลายไปจากความเป็นด่างมากเกินไปของแชมพูสระผม หรือจากการเป่าผมบ่อยๆ หนีบผมบ่อยใช้ความร้อนสูง ทำเคมีซํ้าซ้อน
2. ผมมัน oily hair
เส้นผมมีลัษณะมันเยิ้ม มองดูคล้ายสกปรก ไม่มีชีวิตชีวา ปวกเปียกไม่ยืดหยุ่น เกิดจากต่อมน้ำมันผลิตน้ำมันมากเกินไป เป็นสาเหตุหนึ่งของรังแคเปียกและผมร่วง
3. ผมธรรมดา normal hair
เป็นเส้นผมที่มีสุขภาพดี แลดูมีน้ำหนัก อ่อนสลวย เงางามเป็นประกาย มีน้ำหนักจัดทรงง่าย
**เมื่อเราได้เรียนรู้เกียวกับโครงสร้างเส้นผมแล้ว เราก็จะทราบแล้วว่าองศ์ประกอบสำคัญของเส้นผม คือ เคราติน **
เรียนรู้วิธีการทำเคมีอย่างไรที่ถนอมเส้นผม ???
เมื่อเคราตินที่มีในผมถูกทำลายไป วิธีใดบ้างที่จะเติมเคราตินเข้าไปเสริม???
การทำเคมีที่ทำกันบ่อยมีอะไรบ้าง???
ตอบ ยืดผม
ดัดผม ทำสีผม งานเคมีเหล่าล้วนทำลายเคราตินและโครงสร้างผม
โครงสร้างผมและเคราตินเมื่อถูกทำลายสภาพผมก็จะแห้ง
เกล็ดผมอาจฉีกขาด ความนุ่มเงางามจะหายไป การยืดผมและดัดผม เคราตินในผมถูทำลายไป 40-50%
การทำสีผมเคราตินในผมถูกทำลายไป
30-35% การเกาะตัวกันของเกลียวเคราติน จะต้องมีกรดเกลือ
ไฮโดรเยน
และกำมะถันเป็นส่วนช่วยทำให้เกิดการยึดเหนี่ยวกันของเกลียวเคราตินแต่ละเส้น
และแต่งละห่วงโซ่
ดังนั้นเวลาเราทำดัดผม หรือยืดผม เราจะไปทำการเปลี่ยนแปลงแขนกำมะถันที่ทำการยึดเกลียวเคราตินให้มีการแตกตัว
เพื่อจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเส้นผม ช่วงที่เคราตินในเส้นผมมีการแตกตัว
จึงจะมีกลิ่นแบบไข่เน่า เหม็นนั่นแหล่ะ ทำให้เป็นคำตอบว่า ต่อให้น้ำยาดีแค่ไหน
ตอนขณะทำก้อต้องเหม็น เพื่อเราจะรู้ว่า ในขณะนั้นเกลียวเคราตินมีการแตกตัว
แต่น้ำยาดี จะรู้ตอนที่ทำเสร็จแล้วไม่มีกลิ่นทิ้งค้างไว้
และเสริมประสิทธิ์ภาพในการยืดผม ดัดผม สีผม โดยการเติม ฟาเกอร์
เซรั่มเคราติน ช่วยให้ผมเงางาม และแข็งแรง แต่ผมจะไม่นุ่ม
เทคนิคเสริมเคราตินเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและเงางาม
หมักทรีทเม้น + เซรั่มเคราติน สูตรเข้มข้น Farger Fashion care Experts (serum) KERATIN
วิธีใช้ ให้หยดเซรั่มเคราตินลงถ้วยเคมีที่จะทำให้กับลูกค้า
ยกเว้นดัด ก่อนดัดให้ทาเซรั่มเคราตินที่เส้นผมเลย ให้หยดลงที่ฝามือ
แล้วลูบให้ทั่วทั้งทั่งสองฝามือ แล้วจึงมาลูบที่ผมที่หมาดนํ้า
แต่ถ้าเป็นยืดหรือสีผมให้หยดลงในถ้วยได้เลย ปริมาณเซรั่มเคราติน ที่ใช้กับสภาพผมที่แข็งแรง 5-10 หยด ผมแห้งเสีย 10-20
หยด
แล้วคนให้เข้ากัน และใช้ร่วมกับทรีทเม้นอบไอนํ้า แชมพูสระผม
ใส่ก่อนไดร์หนีบผมป้องกันความร้อน ลูบไล้ที่ก่อนลงสระนํ้าป้องกันคอรีนและกัน UV เซรั่มเคราตินจะเข้าไปในแกนผม
ทำผมแข็งแรงและเงางามขึ้น
Read full post »